ลูกสมาธิสั้นได้อย่างไร?

เด็กสมาธิสั้น

สาเหตุ :

เกิดจากความบกพร่องของสารเคมีในสมองที่เชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าในสมอง ในส่วนสมองที่ควบคุมการใช้สมาธิ และพบว่าอาจจะมาจากพันธุกรรมมากว่าคนทั่วไป 2-8 เท่า
ในปัจุบันพบว่าเด็กวัยเรียนทั่วโลก เป็นโรคสมาธิสั้นประมาณ 8-12% เป็นกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 3-5 เท่าครับ

จะสังเกตุได้จากอาการเหล่านี้ :
1. อยู่ไม่นิ่ง ซน ยุกยิก มืออยู่ไม่สุข อยู่นิ่งไม่ได้ต้องขยับตลอดนั่งไม่ติด ชอบเดินไปมา พูดเก่งพูดไม่หยุด รอคอยไม่ได้คิดอะไรจะทำทันที
2. ขาดสามธิจดจอ ไม่มีสมาธิ ไม่อดทนพอที่จะทำสิ่งนั้นๆ เหม่อลอย ขี้ลืม
3. เป็นทั้งสองอย่างควบคู่กัน

การรักษา :
1. รักษาโดยการทำกิจกรรมบำบัด ปรับพฤติกรรม
2. การรักษาด้วยยา โดยตัวยาจะเข้าไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารสื่อประสาทเพิ่มมากขึ้น
3. คุณพ่อคุณแม่เรียนรู้ในการปรับพฤติกรรมในการดูแลลูก

เกณฑ์การวินิจฉัยซึ่งกำหนดโดยสมาคมจิตเวชอเมริกัน ตาม
A. อาการที่บ่งชี้ว่าลูกขาดสมาธิจดจ่อ อย่างน้อย 6 เดือน
– ไม่สามารถจดจ่อทำการบ้านหรืองานอื่นให้เสร็จบ่อยครั้ง
– ไม่สามารถคงความสนใจกิจกรรมหรือการเล่นได้นาน
– ไม่ฟังว่าใครพูดอะไรได้บ่อยๆ
– ไม่ทำตามคำสั่งหรือคำแนะนำเรื่องการบ้านหรือหน้าที่ต่างๆ บ่อยๆ
– ไม่สามารถจัดลำดับก่อนหลังหรือกิจกรรมของตัวเองบ่อยๆ
– หลงหรือไม่ชอบงาน ซึ่งต้องใช้ความตั้งใจบ่อยๆ
– ทำอุปกรณ์ เช่น ดินสอ สมุด ยางลบ ของเล่น หายบ่อยๆ
– ลืมทำกิจวัตรประจำวันบ่อย
– มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอกเล็กน้อย ก็หันเหความสนใจจากงานไปได้อย่างบ่อยๆ

B. อาการบ่งชี้ว่าลูกอยู่ไม่สุข ห้ามใจตัวเองไม่ได้ อย่างน้อย 6 เดือน
– ยุกยก ขยับตัว ขยับเท้า
– ลุกจากเก้าอี้ เดินไปมาในห้องเรียน
– วิ่งเล่นปีนป่ายในเวลาสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
– ไม่สามารถเล่นหรือทำงานอดิเรกแบบเงียบๆ ได้
– อยู่นิ่งๆ ไม่ได้
– พูดมาก พูดโพล้ง
– รีบตอบคำถามทั้งๆ ที่ คำตอบยังไม่จบ
– รอคอย เข้าคิวไม่ได้
– ชอบแหย่หรือยุ่งกับคนอื่น

อาการทั้งหมดต้องเกิดก่อนอายุ 12 ปี มีอาการอย่างน้อย 2 สถานที่ขึ้นไป เช่น ที่โรงเรียนและที่บ้าน
คุณพ่อคุณแม่ลองเช็คดูอาการดังกล่าวดูนะครับ และช่วยลูกเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤตืกรรมาจจะรักษาลูกได้เองก็ได้นะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก วารสารเผยแพร่ความรู้ รพ.วิภาวดี (มค.-มีค. 2559)

(Visited 227 times, 1 visits today)

Leave a Reply